วธ.เชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมสุขใจกับ เทศกาลดนตรี Winter Love Songs ดื่มด่ำกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ-เทิดพระเกียรติ “อัครศิลปิน” เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2565 พร้อมเริงลีลาศกับวงดนตรีสุนทราภรณ์ ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 8 - 9 ธันวาคม ศกนี้
วธ.เชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมสุขใจกับ เทศกาลดนตรี Winter Love Songs ดื่มด่ำกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ-เทิดพระเกียรติ “อัครศิลปิน” เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2565 พร้อมเริงลีลาศกับวงดนตรีสุนทราภรณ์
ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 8 - 9 ธันวาคม ศกนี้
กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับกรมศิลปากร กรุงเทพมหานคร วงเฉลิมราชย์ และมูลนิธิสุนทราภรณ์ฯ จัดการแสดงดนตรีเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ เทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) การแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” และการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ชวนประชนชาวไทยร่วมเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สุขใจกับบทเพลงขององค์ “อัครศิลปิน” ดื่มด่ำกับเพลงสากลยอดนิยม สนุกสนานร่วมเต้นลีลาศกับการแสดงดนตรีโดยวงสุนทราภรณ์ ระหว่างวันที่ 8 - 9 ธันวาคม 2565 ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
(25 พ.ย. 65 โถงชั้น 1 วธ.) นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ประธานแถลงข่าว กล่าวว่า วธ.โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินโครงการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยการจัดงานเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) การแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” และการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ระหว่างวันที่ 8 - 9 ธันวาคม 2565 เพื่อน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 5 ธันวาคม 2565 และเทิดพระเกียรติ “อัครศิลปิน” ในฐานะที่พระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีสากล ผ่านการแสดงดนตรีด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์ให้ประชาชนชาวไทยได้น้อมรำลึกและแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ได้สร้างคุโณปการต่อประเทศนานับประการ
นางยุพา กล่าวต่อว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดพื้นที่ลานวัฒนธรรมสร้างสุข โดยให้ทุกจังหวัดบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการนำกิจกรรมทางวัฒนธรรมเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกโอกาส จึงเกิด “ลานวัฒนธรรมสร้างสุข” เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่ม เข้าถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรม อาทิ การจัดกิจกรรมดนตรีในสวน ถนนสายวัฒนธรรม ศิลปะการแสดง หรือเป็นการออกกำลังกายของบุคลากรกระทรวงวัฒนธรรม ณ ลานวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัด เป็นพื้นที่ในการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความสุขทางกายและทางใจ สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ความรัก ความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เช่น ลานวัฒนธรรมสร้างสุข ณ กระทรวงวัฒนธรรม แห่งนี้ ที่ใช้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ประชาชนทุกคนได้มีส่วนร่วม
“งานเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) ที่จะจัด ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม ประกอบด้วย ๒ รายการ โดยรายการแรก เป็นการแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” จากวงดนตรีเฉลิมราชย์ วงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร วงดุริยางค์กรุงเทพมหานคร ร่วมกันบรรเลงและขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาทิ บทเพลง ความฝันอันสูงสุด ในดวงใจนิรันดร์ เป็นต้น สำหรับรายการที่ 2 เป็นการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” บรรเลงบทเพลงโดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับลีลาศและรำวงในจังหวะที่หลากหลาย ซึ่งเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมงานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย” ปลัดกระทรวง กล่าว
นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า สำหรับการจัดงานดนตรีเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ เทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) การแสดง “Winter Love Songs : ในครั้งนี้ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “MOC MU FES” เป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 1 เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์ท่านทรงเป็นอัครศิลปินในหลาย ๆ สาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาดนตรีที่เรารับทราบกันดีนะครับ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีจำนวนมากยังเป็นที่ประทับใจของประชาชนชาวไทยทุกคนอยู่
“เนื่องในโอกาสที่ 1 ปี ในเดือนธันวาคมเวียนมาครบวาระอีกครั้งหนึ่งนี้ ก็เป็นการสมควรอย่างยิ่ง ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จะได้จัดการแสดงดนตรีเทิดพระเกียรติท่านที่จะรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทำให้ประชาชนชาวไทยมีความสุขทางด้านดนตรีมาเป็นระยะเวลายาวนาน สถานการณ์ของประเทศผ่านจากช่วงโควิดมา ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจ สภาพสังคม สภาพวัฒนธรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเหตุการณ์โควิดได้ผ่านพ้นไปแล้ว สิ่งที่จะเป็นสุนทรียทางจิตใจทำให้ทุกท่านได้มีความสุขเพื่อจะได้มีพละกำลังในการต่อสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังโควิด ที่ทุกท่านจะได้ผ่อนคลาย และได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านของสถาบันพระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทย เราก็ได้สร้างความสุขกับเสียงดนตรี ขณะเดียวกันนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมโดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ท่านปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ท่านได้จัดสร้างลานวัฒนธรรมสร้างสุข ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดกว้าง ในเรื่องของศิลปวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานศิลปะ งานดนตรี ด้านวัฒนธรรมให้คนได้เข้ามาสัมผัสในพื้นที่ได้มีความสุขกลับไป เพื่อที่จะได้เป็นขวัญและกำลังใจ ในการต่อสู้กับสภาวะในการใช้ชีวิตหลังโควิดต่อไป
โดยบรรยากาศในงานแถลงข่าว เริ่มด้วยการแสดงดนตรี “Winter Love Songs : บทเพลงพระราช-นิพนธ์” ดนตรีโดยวงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ “คำหวาน” (บรรเลง) ต่อด้วย “แผ่นดินของเรา” และเพลงลูกกรุงอมตะ “หยาดเพชร” ร้องโดย นายรัฐพงศ์ ปิติชาญ จากนั้นเป็นการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ เมดเลย์ 3 เพลง ได้แก่ “หิมพานต์” ร้องโดย พรศุลี ปิติชาญ “เริงลีลาศ” ร้องโดย โน้ต พรชัย – แจ๊บ – ณฤพล “ตลุงมอญซ่อนผ้า” ร้องโดย แจน - นันทพร – แจ๊บ – ณฤพล เพลิดเพลินกับการโชว์เต้นลีลาศ คู่ (ชาย-หญิง) โดย นายภูราห์เทพ ภู่ระหงษ์ นางพิจิตรา บัวบาล และยังได้รับเกียรติจากผู้แทนวงดนตรีเข้าร่วมแถลงข่าว ได้แก่ นายทรงวุฒิ จรูญเรืองฤทธิ์ นักเปียโนและนักเรียบเรียงเสียงประสานประจำวงดนตรีเฉลิมราชย์ กล่าวถึงรายละเอียดการแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” ที่จะใช้แสดง และ นางอติพร เสนะวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุนทราภรณ์ ในพระราชูปถัมภ์ ได้กล่าวถึงรายละเอียดการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” อีกด้วย
นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนที่มาร่วมงานเทศกาลดนตรีที่จะจัดขึ้นในครั้ง จะได้ดื่มด่ำกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในบรรยากาศ Winter Love Songs ทั้งบรรเลงและเพลงร้องอย่างเต็มอิ่ม จากพระอัจฉริยภาพของ “อัครศิลปิน” ในหลวงรัชกาลที่ 9 อาทิ ความฝันอันสูงสุด แผ่นดินของเรา ในดวงใจนิรันดร์ Oh I say แก้วตาขวัญใจ ดวงใจกับความรัก ลมหนาว พร้อมด้วยบทเพลงลูกทุ่ง-ลูกกรุงยอดนิยม มากมาย เช่น ยอยศพระลอ มนต์รักลูกทุ่ง กระแซะเข้ามาซิ หยาดเพชร ทั้งยังได้ซาบซึ้งกับบทเพลงสากลที่ยังอยู่ในความทรงจำ เช่น My way , Greatest love of all , one moment in time , If we hold on together เป็นต้น ที่บรรเลงโดยสุดยอดวงดนตรีระดับบิ๊กแบนด์-วงออร์เคสตร้า (ORCHESTRA) คุณภาพของประเทศ คือ วงดุริยางค์สากลกรมศิลปากร วงดุริยางค์ กรุงเทพมหานคร และวงดนตรีเฉลิมราชย์ ปิดท้ายด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลินกับลีลาศสร้างสุขกับวงดนตรีสุนทราภรณ์ในแบบจัดเต็มครบทุกจังหวะ ทั้งละติน บอลรูม และจังหวะยอดนิยมอย่างเต็มอิ่ม
สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมลีลาส แต่ยังไม่มีพื้นฐานการเต้น สามารถสมัครเข้าเรียนเต้นลีลาศ หลักสูตรเร่งรัดภายใน 2 วัน (ฟรี) ในจังหวะบีกิน และ ช่า ช่า ช่า ระหว่างวันที่ 1 - 2 ธันวาคม เวลา 15.00 - 18.00 น. ณ โถงกลาง ชั้น 1 อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม รับจำนวนจำกัด 100 คู่ สำรองเรียน โทร 0 2247 0028 ต่อ 4104 , 4119
ทั้งนี้ จึงขอเชิญประชาชนทั่วไปร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในงานเทศกาลดนตรีฯ เข้าร่วมกิจกรรมลานวัฒนธรรมสร้างสุข (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) และสามารถติดตามข่าวสารวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ทาง www.culture.go.th หรือเฟซบุ๊กกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ Line @ วัฒนธรรม
#กระทรวงวัฒนธรรม
#กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
#เทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES)
#สมาคมสื่อมวลชนเพื่อการท่องเที่ยว
#kradangnga.com
CHATCHAI DAENGKASEM
0830760579
No comments